นึกประเด็นได้ต่อ ขอเขียนออกมาเป็นภาค2 แล้วกันครับ เริ่มกันเลย โอ้ เย่
วิเคราะห์ตลาดและความสามารถในการแข่งขัน
ผมอยากรู้ว่ายอดในสาขาระหว่าง HomePro กับ Global เป็นยังไงบ้าง จริงๆอยากรู้ ไทวัสดุ ด้วย
แต่เค้าไม่ได้อยู่ในตลาด เลยไม่มีตัวเลข เอาเป็นว่าทำเทียบกัน 2 ตัวแล้วกันครับ
โดยดึงข้อมูลจากทีเ่ปิดเผยสาธารณะจาก Set.or.th ได้ออกมาเป็นอย่างนี้
จากตาราง วิเคราะห์อะไรได้บ้าง? ผมวิเคราะห์ได้อย่างนี้
ตารางนี้คิดจากฐาน 9 เดือน แล้วแปลงเป็นต่อปีนะครับ
รายได้/สาขา ของ Global ดีกว่า Hmpro ทั้งๆ 12สาขาที่เปิดอยู่ในต่างจังหวัดทั้งหมด
และยังไม่มีสาขาในกรุงเทพเลย แสดงว่า หัวเมืองในต่างจังหวัดโดยเฉลี่ยมีกำลังซื้อมาก ไม่น้อยไปกว่าในกรุงเทพเลย
เผลอๆอาจจะมากกว่าในบางสาขาด้วยซ้ำ แต่ด้วยอัตรากำไรสุทธิของ Hmpro มากกว่า ทำให้กำไรสุทธิต่อสาขาชนะไปได้
SSS (SSGS) ของ Global จากข้อมูล OppDay ผมเอาตัวเลขล่าสุดของปี 2010 อยู่ที่ 12.7% ซึ่งถือว่าสูงมากจนน่าตกใจ
เพราะ 7-Eleven SSS อยู่ที่ 5% เท่านั้น สมมติปีนี้ให้ %SSS อยู่ที่ซัก 12% ในปี 2011 แล้วก็เป็น 10%ในปี 2012 ก็ยังถือว่าเยอะมากอยู่ดี
และถ้ายอดขายในพื้นที่เดิมๆเริ่มโตลดลง การขยายสาขาไปในจังหวัดใหม่ๆในช่วงที่รัฐส่งเสริม และดอกเบี้ยต่ำ ก็เป็นจังหวะที่ควรทำ
จุดเด่นของ Global อย่างนึงคือ ผู้ซื้อสามารถขับรถเข้ามาแล้วขนของออกไปได้เลย ในเวลา 10 นาที หรือจะให้ส่งถึงบ้านก็ยังได้ โอ้ จอร์จ แบบนี้ได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ
ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายต่อสาขาในตจว.นั่นเยอะเพราะอะไร
แต่ค่าเช่าในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในห้างก็สูงกว่าตจว.เป็นธรรมดา ทำให้เราเห็นว่า
สุดท้ายแล้ว รายได้หักค่าใช้จ่าย ทำให้กำไรสุทธิ 9 เดือนอยู่ที่ 0.24 บาท/หุ้น เท่ากัน
แล้วทำไม Hmpro มี NPM ดีกว่าล่ะ อย่างที่ได้เขียนไปในภาคแรกแล้วว่า ส่วนนึง Hmpro มีสินค้าที่เป็นยี่ห้อของตัวเองที่มีกำไรดีกว่า ตรงนี้ถ้ามองเป็นโอกาสของ Global ที่จะทำ House Brand ของตัวเองที่จะเพิ่ม NPM ขึ้นไปได้อีก ซึ่งเท่าที่ดูจากWeb ของ Global ก็มีประกาศรับคู่ค้าทางธุรกิจ รวมทั้งพนักงานทั่วประเทศอีกเป็นจำนวนมาก
การที่มีสาขาจำนวนมากขึ้น ทำให้สามารถต่อรองราคาสินค้าได้ถูกลง และค่าใช้จ่ายในส่วนที่ทำครั้งเดียว เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เมื่อมีจำนวนสาขาเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้ต้นทุนต่อสาขาลดลง นั่นก็คือกำไรที่เพิ่มขึ้น
ทำความรู้จักผู้บริหาร
วิทูร สุริยวนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด ที่จำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องสุขภัณฑ์และของตกแต่งบ้านครบวงจร จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในสาขาวิศวกรรมโยธา ในปี 2522 ก่อนที่จะเริ่มงานครั้งแรกด้วยงานรับเหมาก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยในจังหวัด ร้อยเอ็ด ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีนั้น ก็มีความคิดว่าในเมื่อทำอาชีพรับเหมาก่อสร้างแล้วทำไมไม่จำหน่ายสินค้าวัสดุ ก่อสร้างไปด้วย
จากนั้นเขาจึงได้ทุ่มเททุนส่วนตัว ลงทุนเปิดกิจการ โดยเปิดร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องสุขภัณฑ์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ ภายใต้ชื่อร้าน บริษัท ร้อยเอ็ดฟาร์ม จำกัด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด ต่อมากิจการรุ่งเรืองมาก จึงได้ขยับขยายบริเวณใกล้เคียงกัน เปิดร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเพิ่มสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
จากประสบการณ์ที่ได้เก็บเกี่ยวมาจากผู้รับเหมาก่อสร้าง จนถึงเปิดร้านจำหน่ายขนาดเล็กมากว่า 16 ปีนั้น ทำให้เขาได้เล็งเห็นความก้าวหน้าทางธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง จึงได้ผุดห้างโกลบอลเฮ้าส์แห่งแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ด บริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท โดยการรวบรวมอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องสุขภัณฑ์ อุปกรณ์ตกแต่งบ้านทุกชนิดที่หลากหลาย พร้อมทั้งนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาดึงดูดใจลูกค้า
ต่อมาในกลางปี 2543 เขามีเป้าหมายที่จะขยายสาขาในระดับภูมิภาค ซึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพเป็นเมืองเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนนั้น คือ จังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี จึงได้ขยายสาขาเพิ่ม ด้วยใช้เงินลงทุนสาขาละ 300-400 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้าทุกระดับใช้เลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
เขาบอกว่า กลุ่มลูกค้าของเขานั้น ไม่ได้แยกเป็นระดับล่างหรือบน แต่ลูกค้าเป็นกลุ่มที่ต้องการก่อสร้าง ต่อเติมบ้าน ตกแต่งบ้าน โดยมีทั้งประชาชนทั่วไป ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือผู้ประกอบการธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ก็ล้วนเป็นลูกค้าของเขาทั้งสิ้น ทำให้ในปี 2548 ที่ผ่านมา ได้ผุดสาขาขึ้นอีก 1 แห่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้เปิดให้บริการไปแล้ว นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะขยายสาขาอีกหลายจังหวัด โดยอาจจะเป็นที่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสำรวจพื้นที่อยู่
เราไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องก่อตั้งสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค แต่สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ก็แสดงให้เห็นว่า เราอาจจะขยายได้ทุกพื้นที่ถ้ามีโอกาสและมีศักยภาพมากพอ ซึ่งการที่เราขยายสาขานั่นก็แสดงให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่ก็จะมีงานทำด้วย โดยในแต่ละสาขานั้น จะมีพนักงานไว้คอยบริการ ประมาณ 500-600 คนต่อสาขา วิทูร บอก
รายได้จากการประกอบการในแต่ละปีนั้น เขาบอกว่า ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลลดหย่อนภาษีด้านอสังหาฯ ทำให้บริษัทได้ผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ โดยในปี 2547 ธุรกิจโตประมาณ 40-50% เนื่องจากการเปิดสาขาที่จังหวัดอุดรธานี และเชื่อว่าพอเปิดสาขาที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก
ในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น เขามองว่า ตลาดการก่อสร้างยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่จะอยู่ในระดับค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาเหมือนปีก่อน แต่การก่อสร้างบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยของประชาชน ก็ยังเป็นตัวหลักอยู่ โดยเฉพาะขณะนี้ รัฐบาลปล่อยราคาน้ำมันให้เป็นไปตามกลไกของตลาดโลก ยิ่งทำให้วัสดุก่อสร้างบ้านราคาแพงขึ้น ดอกเบี้ยของธนาคารปรับเพิ่มด้วย
“ผลของความสำเร็จกับธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อยู่ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจกับเรา จุดแข็งของธุรกิจนั้น มาจากโกลบอลเฮ้าส์มีสินค้าครบ หลากหลาย ราคาเป็นกันเอง และการบริการหลังการขายที่ดี โดยสินค้าที่ซื้อทุกตัวจะมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน หรือตามคุณภาพของสินค้านั้น ๆ โดยถือคติที่ว่า ซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและทำให้ลูกค้าพึงพอใจ ทำให้กิจการของเราได้รับการตอบรับที่ดี” วิทูร บอก
จาก http://www.bangkokbiznews.com/2006/02/10/WW53_5310_news.php?newsid=11108
10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 โดย มยุรี อัครบาล
วิเคราห์ผู้บริหารและปัจจัยแวดล้อม
จากประวัติของคุณวิทูร สุริยวนากุล จะเห็นว่า เริ่มจากเป็นวิศวกรโยธา ทำให้เข้าใจว่าธุรกิจก่อนสร้างต้องการอะไร แล้วตอนหลังถึงขยาย
Line สินค้ามาเป็นพวกเครื่องมือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านด้วย แบบเดียวกับ HomePro โดยจะเน้นภาึคอีสานเป็นหลัก เพราะอยู่ในภูมิลำเนาที่
ตัวเองถนัด แต่ก็จะขยายสาขาตามหัวเมืองที่มีศักยภาพ
อีกตัวเร่งนึงคือ Global ถูกทางเพิ่มในMorgan Stanley Capital International Global Small
หรือ MSCI Thailand Index (Small Cap.) ซึ่งจะทำให้หลายๆกองทุนหันมามองมากขึ้น
ปัจจัยที่แตกต่างในการขยายสาขาคือ Global เลือกที่จะลงทุนบนพื้นที่ของตัวเอง และเน้นพื้นที่ที่ตัวเองชำนาญและคุ้นเคย
แืทนที่จะตะลุยเช่าในพื้นที่มี Premium สูงอย่าง Hmpro หลายคนอาจจะมองว่าออกแนวอนุรักษ์นิยมไปหน่อย
อาจะเสียโอกาสในการจับจองหัวหาดสำคัญ
แต่ถ้ามองในแง่ดี ก็มองได้ว่า เค้าเลือกเล่นในเกมที่ถนัด และรอจังหวะบุก เหมือนอย่างในปีนี้
สังเกตที่เป็นตัวหนังสือสีเขียวในข่าว จะเห็นว่าช่วงที่รัฐบาลลดหย่อนภาษีภาคอสังหาฯ ในปี 47 Global ขยายตัวได้ 40-50%
ซึ่งสถานการณ์ซ้ำรอยกับช่วงที่เขียนนี้เป๊ะ (ปลายปี54-ปี55) ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ประกาศกระตุ้นอสังหาฯ Global ก็ประกาศ
ขยายสาขาอีก 40% เช่นเคย เข้าข่าย รอจังหวะบุกจริงๆ
ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ท่านอื่นที่น่า่สนใจ
1. โดยคุณ SIRIPORN ARUNOTHAI ธนชาติ
อ่านฉบับเต็มได้ที่ http://admin.thanachartsec.co.th/upload/research/T110622.pdf
ปิดท้ายด้วยเพลงที่รอวันพิสูจน์ว่า Global จะเป็น SuperStar อีกตัวได้มั้ย
29 ธันวาคม 2554
@Shaen
♣ อ่าน Global The Next Star ภาค3
♣ ย้อนอ่าน Global The Next Star ภาค1
ปล เป็นความเห็นที่เกิดจากข้อมูลที่ผู้เขียนทำการค้นคว้า และบันทึกเพื่อประโยชน์ในการค้นข้อมูลย้อนหลังของตัวเอง
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและตัดสินใจครับ