Monthly Archives: กรกฎาคม 2011

สูตรหุ้น(ส)เป็กดี

มาตรฐาน

สูตรหุ้น (ส)เป็กดี มีอยู่ว่า
P= Price
E= Earning Per Stock
G= Growth
D= Dividend

PER/(G+D) ควรจะน้อยกว่า 1
หรือย้ายสมการ ถ้า G+D > P/E ก็น่าสนใจ

ลองวิเคราะห์ หุ้น 2 ตัวนี้ดูครับ ว่าตัวไหนน่าสนใจกว่า ทั้ง 2 ตัวอยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกัน

หุ้น ABC
P ราคา = 10 บาท
E กำไรต่อหุ้น = 0.5 บาท
G โต =10%
D ปันผล =5%

หุ้น XYZ

P = 20
E = 1
G= 25%
D= 0% ไม่ปันผล

เฉลย ลอง Hilight ข้างล่าง ดูเอานะครับ แต่อยากให้ลองคิดดูก่อน
——————————เฉลย————————————-
ABC : PE(R)/ (G+D) => (10/0.5) / (10+5) = 20/15= 1.33
XYZ : PE(R)/ (G+D) => (20/1) / (30) = 21/30 = 0.7

ปีแรก ทั้งคู่ PE เท่ากันที่ 20 เท่า 10/0.5 กับ 20/1
ปีถัดมา หลังจากคิด Growth แล้ว
ABC : P/E = 10/(0.5×1.1) = 18.18 => PE  20 เท่า เหลือ 18.18 เท่า
XYZ : P/E = 20/(1×1.25) = 16.8 => PE ลดจาก 20 เหลือ 16.8 เท่า

จากการเปรียบเทียบ ดูเผินๆ XYZ น่าจะแำำำำพงกว่า แถมไม่ปันผลอีก ! แต่เมื่อเข้าสูตรแล้วจะเห็นว่า
การเติบโตที่มากกว่า ทำให้หุ้น XYZ น่าลงทุนกว่าหุ้น ABC เสียอีก และ้ถ้ามีการเติบโตในอนาคตอย่างชัดเจน
จัดเป็น Growth Stock ได้เลย และเป็นเหตุผลว่า ทำไม Growth Stock จึงสามารถมี PE(R) ที่สูงกว่าหุ้นธรรมดาๆ

————————————————————————–
PE(R)/ (G+D) อธิบายถึง อัตรกาการเติบโต ปันผล เทียบกับ มูลค่าของหุ้น
ยิ่งต่ำยิ่งดี และสูตรนี้จะมีประสิทธิภาพในกิจการที่มีผลประกอบการณ์ค่อนข้างสม่ำเสมอ

ปล กิจการที่มีการพลิกฟื้น จะมี การเพิ่มขึ้นขึ้นของ Growth อย่างมาก ทำให้ P/E ในไตรมาสถัดไปลดลงอย่างมาก

25 ก.ค.54
แชน