พอดีว่าคุณ Hong เค้าจะจัดงานสัมมนา workshop financial projection อีก โดยมีข้อแม้ว่า
ต้องส่งประมาณการ EPS ล่วงหน้า ไหนๆผมเจาะ Global มาอยู่แล้ว ลองประเมิณดู
ก็ขอแปะแชร์เลยแล้วกันครับ
โดยในกลางปี 2556 จะมี warrant อีก 240 ล้านหุ้น ผมก็ตีว่า แปลงหมดให้ไดลูทสูงสุดเลยนะครับ
จาก 1440 + 240 => 1,680 ล้านหุ้น
ปี 2014 หรือ 2556 บริิษัทมีทางเลือกแล้วว่าจะ ขยายกี่สาขา หรือจะปันผล เพราะมีกระแสเงินสดมากพอ
ตอนนั้นอาจจะพิจาจารณสถานการณ์ตลาดอีกที ผมเลยทำเป็นทางเลือก 4 กับ 6 สาขานะครับ
—————————————–เพิ่มเติม 13 มีนาคม 2012 ————————————————
หลังมีการแจกปันผลเป็นหุ้น จะทำให้ dilute EPSแค่ไหน ลองมาคำนวณดูกัน
แจก 5:1 เพิ่มอีก ตีกลมๆ 290 ล้านหุ้น ของเดิม 1449 ล้านหุ้น
*ครั้งที่ 1. 18 พศจิการยน 2554 => มีคนแปลง 66 คน 9,926,868 หน่วย คงเหลือ 230,073,115
รวมเฉพาะหุ้นแม่ = 1449+290 = 1739 ล้านหุ้น
Global-W เหลือ 230 ล้านหุ้น
ESOP 47,303,032 ตีกลมๆ 48 ล้านหุ้น
รวมถ้ามีการแปลงทั้งหมด จะมีหุ้นทั้งหมด = 1739+230+48 = 2017 ล้านหุ้น
นั่นคือ 2017/1440 = Dilute 40% ถ้าไม่มี Growth ช่วยไว้เยอะ ก็น่าคิด
หลัง Dilute EPS(กำไรต่อหุ้น) ปีนี้จะเพิ่มเหลือแค่ 0.392/0.341 = 14.96% จาก 38%
แต่ปีหน้าก็ยังถือว่าโตกระโดดอยู่ดี เพราะ 7 สาขาที่เปิดเพิ่ม จะมีเวลาทำการเต็มๆในปีหน้า
ฉะนั้น การให้ P/E กับตัวกิจการก็ยังเป็นศิลปะอยู่ดี
ลองดูตารางใหม่ล่าสุดครับ
เขียนครั้งแรก 13 ก.พ. 55
ครั้งที่ 2 คำนวณ EPS หลังปันผล5:1 ใหม่ 13 มีนาคม 2012
หมายเหตุ : หลัง AGM 55 ท่านประธานบอก ปีนี่เปิด 7 สาขาได้ ปีหน้าก็อย่างน้อย 7 สาขาล่ะซิ
เตรียมพบกับ Projection ตัวใหม่เร็วๆนี้ 😀
@Shaen
ย้่อนอ่าน
หมายเหตุ : การประมาณจัดทำขึ้นโดยข้อมูลที่ข้าพเจ้าหาและประมาณการได้จากสภาพตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน
โปรดใช้วิจารญาณในการทำความเข้าใจนะครับ
VI Hybrid by 1154 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีครับ คอยติดตามอยู่เรื่อยๆนะครับ
สมมุติฐานที่ใส่มามีเรื่องอยากตั้งคำถามนิดนึงครับ
การใส่สมุติฐานว่าสาขาใหม่ๆจะกำไรเท่ากับสาขาเดิมๆ จำเป็นต้องรู้พื้นที่ด้วยหรือเปล่าครับ
เพราะถ้าพื้นที่ต่อ ตรม น้อยลงสาขาใหม่ก็ไม่น่าจะได้กำไรต่อสาขาเยอะเท่าสาขาเก่าๆ
และยังมีประเด็นว่าพื้นที่ใหม่ๆถ้าไปสร้างในจุดที่กำลังซื้อน้อยกว่าก็อาจจะขายได้ไม่ดีเท่า
และยังมีแนวโน้มว่าสินค้า house brand ของบริษัทเป็นยังไงจะทำเพิ่มไหม อะไรต่างๆที่จะทำให้มาร์จิ้นดีขึ้น
โดยส่วนตัวคิดว่าสมมุติฐานที่ใช้น่าจะถูกต้องเกือบหมดแล้วเพียงแต่ขาดเรื่องมาร์จิ้นหรือพื้นที่สาขาใหม่ๆอะไรพวกนี้
ก่อนหน้าที่จะทำ Forecase ผมโทรไปคุยกับ IR เพื่อสอบถามว่ายอดขายที่เปิดใหม่เป็นยังไงกับสาขาเดิม
ตอนนี้ที่ IR พอจะบอกได้คือ เพิ่งเปิดที่โคราชที่เป็นหัวเมืองใหญ่ไป เนื้อที่มากกว่าปกติ
(จะรับรู้รายได้Qล่าสุด – ผมอ้างในภาค3ว่าตัวเลขจะโตเกือบเท่าๆกับเปิด 2 สาขา เพราะกำลังซื้อที่มาก)
http://jo.klongjan.com/go.php?to=http://www.ryt9.com/s/prg/1250344
และกำลังจะเปิด 2 สาขา คือ สกลนคร กับ นครพนม ใน 1Q55
ซึ่งผมก็ไปเิปิดจำนวนประชากรใน Wikipedia ดู
– สกลนคร จังหวัดใหญ่ลำดับที่ 16 มีประชากร 1,122,905 ใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยสาขาเก่ามาก
– นครพนม จำนวนประชากรน้อยกว่าที่ 703,392 แต่แนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอด และมีโรงเรียนเยอะ
แสดงว่ามีแนวโน้มที่ประชากรที่ปักหลักมากขึ้น การก่อสร้างก็มีแนวโน้มมากขึ้น
แต่ยังมากกว่าสาขาเก่าที่ระยอง
ใช่ครับ รายได้แต่ละสาขาจะขึ้นอยู่สาขาและกำลังซื้อ แต่ณปัจจุบัน ได้ข้อมูลที่จะเปิดสาขามาเพียง2
(เข้าใจว่าเป็นเป็นกลยุทธ์กับคู่แข่งครับ เพราะ IR ถามผมว่าเป็นคู่แข่งมาสืบหรือเปล่าเนี่ย)
ผมเลยประมาณการโดยใช้ค่าเฉลี่ยไปครับ แต่แนวโน้มของ Global จะเปิดตามหัวเมืองใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ยังกระจุกตัวที่อีสานเป็นหลัก
แต่ถ้าได้สาขาที่แน่นอน +กำหนดเปิด+ รายได้ต่อหัว(ถ้าจะเจาะแบบละเอียด) ก็สามารถประเมิณ
ให้ละเอียดลงไปได้อีกครับ
HouseBrand เป็นอีกตัวที่ผมสนใจ จากกรณี Hmpro ผมเลยขับไปดูจริงที่สาขาชลบุรี เลยเห็นว่า
เฮ้ย มันเจาะตลาดตั้งแต่กลุ่มล่างสุดจริงๆ ถึงเป็นสา่เหตุว่า ทำไมถึงเจาะแบบป่าล้อมเมือง
แล้วจาก Oppday ผบห แจ้งว่า การขยายสาขาเพิ่มขึ่น ทำให้เวลาสั่งของมาแปะ Housebrand ตัวเอง
ก็ทำให้ได้เรื่อง Economy of Scale เพิ่มมากขึ่้นด้วย
มีถ่ายรูปสินค้าที่เป็น housebrand มาจำนวนนึงด้วย (ที่จริงมีเขียนไว้ในภาค3 ที่ถอดมาจาก 56-1)
ขอบคุณครับ clear มากครับ
นครพนม
กับ สกล มีลูกค้าจากฝั่งลาวด้วยไหมคับ
จริงๆถ้าเปิดใกล้ๆจังหวัด ที่ใกล้ฝั่งลาว
เข้าใจว่าจะมีเม็ดเงินจากฝั่งนั้นเข้ามาด้วย
คนรวยฝั่งลาว เค้าว่า กระเป๋าหนัก
ดูจากแผนที่ ก็ไม่ไกลกันมากนะครับ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าค่าของที่ลาว+ค่าขนส่ง มันถูกแพงกว่าฝั่งเรามั้ย
แล้วตอนขน มันะจมีเรื่องภาษีข้ามแดนหรือเปล่า
ถ้าบวกแล้วคุ้ม ก็เป็นช่องทางส่งออกโดยไม่ได้ตั้งใจ 😀 (หรือผบห เค้าอาจจะตั้งใจอยู่แล้ว)
แต่เชื่อว่า ต้องมีคนฝั่งลาว มาด้อมๆมองๆด้วยแน่ๆครับ
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล คอยติดตามผลงานมาโดยตลอด..
ผมอยู่ชลบุรี คู่แข่งเจ้าของตลาดเดิมที่ธุรกิจอยู่ในระดับเดียวกัน คิดว่าน่าจะเป็นกันยงโฮมสโตว์ ซึ่งก็ใหญ่ในระดับนึงเลยทีเดียว และGLOBALมาแชร์ตลาดด้วยอย่างแน่นอน แต่เค้าก็สู้เต็มที่เลยเช่นกัน ที่เห็นได้ชัดก็จากการโฆษณาตามสื่อต่างๆในจังหวัด และคิดว่าต้องเจอภาวะการแข่งขันเช่นนี้ทุกพื้นที่ที่ไปเปิดสาขา
ในจังหวัดภาคตะวันออกถึงแม้จำนวนประชากรและพื้นที่จะไม่ใหญ่เท่าอีสาน แต่ก็มีคนนอกพื้นที่มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจากงานที่นิคมอุตสาหกรรมและตามแหล่งท่องเที่ยว อย่างที่พัทยาผมคิดว่าก็ยังน่าที่จะมีสาขาได้เพิ่มอีกนอกจากที่เลี่ยงเมืองชลบุรี หรือจังหวัดอื่นๆแทบภาคตะวันออกเพราะกำลังซื้อค่อนข้างสูง
ส่วนในกรุงเทพไม่ทราบว่ามีโครงการจะเข้าเมืองเมื่อไหร่หรือยังไม่มีโครงการครับ
ถ้าเทียบเคียงตามบริษัทอย่างHMPROซึ่งมีทุนหนาback upดีอย่าง LH แต่GLOBALไม่มี สามารถที่จะเติบโตเป็นไปอย่างHMPRO ได้หรือไม่อย่างไร ช่วยแสดงความเห็นด้วย ขอบคุณครับ
ขอบคุณที่ติดตามและแชร์ข้่อมูลครับ 😀
ในส่วนกรุงเทพ เท่าที่ผมทราบ บริษัทได้ซื้อที่ดินผืนใหญ่ไว้แล้วทั้ง2ฝั่ง
ลองไปหาฟังย้อนหลังใน Oppday ดูคับ
กลุ่มเป้าหมายของ Global กับ Hmpro จะเป็นคนละส่วนกันครับ
Hmpro – เจาะตลาด Home Improvement+ตกแต่ง มีกำลังซื้อระดับกลางขึ้นไป
และมักจะเปิดในตัวห้าง หรือสถานที่ที่เป็น Premium ใกล้ชุมชมเป็นหลักครับ
คนที่มาเดินจะเยอะกว่าแน่ เพราะมีทั้งคนจากห้าง มาเดินเล่น มาชมก็เยอะ
Global – ยอดขาย 60% มาจากผู้รับเหมาที่เป็นสินค้าโครงสร้างหนัก พวก เหล็กเส้น ทราย สายไฟ
อีก 40%จะเป็นชาวบ้านรอบนอกครับ สินค้าเค้าจะมีตั้งแต่ระดับล่างสุดเลย มีพวกของสั่งจากจีน
เข้ามาทำเป็น Housebrand ในราคาต่ำมากๆ
คนที่มาเดิน Global คือเค้าตั้งใจจะซื้อของโดยเฉพาะ เพราะไม่มีส่าขาในห้่าง และจะตั้งในพื้นที่
ที่ไม่ใช่ Premium ครับ
โอกาสเติบโตของ Global ยังมีอีกเยอะครับ เพราะฐานเตี้ยและ ประชากรส่วนใหญ่ของไทย
เหมาะกับ Global มากกว่า Homepro ที่จับกลุ่มคนเมืองครับ
ที่ช่วงนี้ทั้ง Global ทั้ง Hmpro วิ่งขึ้นมา นอกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งแล้ว + Theme Domestic ค้าปลีก
และยังมีประเด็นที่ SCC สนใจจะซื้อ Hmpro ทำให้ Global ได้รับอานิสงส์ทางอ้อมไปด้วย
ส่วนจะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน ก็ติดตามกันต่อไป
ส่วนตัวที่เจาะมาและเขียนลงblog เป็น 4ภาค ก็ยังรู้สึกว่า ราคาขึ้นมาแรงมาก จนพอๆกับที่
ประมาณการไว้ ณ สิ้นปี ภายใน 2 เดือนแรกของปี !!!
ไม่ได้มาขัดลาภนะครับ ยังไงก็อยากให้ศึกษาและพิจาณาลงทุนด้วยความระมัดระวังครับ
ขอบคุณครับ
ขออนุญาต แก้ไขจาก ssc เป็น scc นะครับ
ขอบคุณคับ ไม่งั้นกลายเป็นน้ำดำจะข้ามอุตสาหกรรม ซะงั้น 😀
ถ้ามันจะเป็น super stock จริง
upper limitคือยังไม่มีมั้งคับ
ถ้าราคาลงเป็น noise ราคาดีดขึ้นก็น่าจะเป็น noise
เพียงแต่คนซื้อตอน noise ด้านบวกก็เสี่ยงตัวแดงชั่วคราว
มั้งคับ
ถ้าวัดจากประมาณการ eps ปี2012 0.455-0.477 กับอัตราการเติบโตราว30-35%
PE ตรงนี้ ก็สมเหตุสมผลครับ
สิ่งที่ผมคำนวณหรือประมาณการคือ EPS ครับ ว่าจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ ตามสาขาที่เปิดใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า PE ขึ้นอยู่กับ growth + hope + emotion ซึ่ง 2 ตัวหลังเข้าข่าย
noise ที่เราควบคุมไม่ได้
เว้นแค่ตลาด bullish มาก จะไปtrade ที่กำไรปีหน้านู้นเลย ก็ต้องชั่งใจว่า มีโอกาสเกิดเหมือน jas ได้ครับ
นับตั้งแต่วันที่ผมเขียนภาคแรก แม่บวก30% ลูกทะลุไป 100กว่า% ภายใน2เดือน!
การ correction ย่อมเกิดเป็นธรรมดาครับ แต่ระยะยาวยังไง กำไรก็โตไปตามตลาดsectorนี้ได้ครับ
แต่ไหงจากจากที่คิดกันเล่นๆว่า ปูนจะมาtakeเรา กลับกลายเป็นมีข่าวกับ hmpro ซะงัั้น
Pingback: Global The Next Star ภาค3 « VI Hybird
หลังมีการแจกปันผลเป็นหุ้น จะทำให้ dilute EPSแค่ไหน ลองมาคำนวณดูกัน
แจก 5:1 เพิ่มอีก ตีกลมๆ 290 ล้านหุ้น ของเดิม 1449 ล้านหุ้น
*ครั้งที่ 1. 18 พศจิการยน 2554 => มีคนแปลง 66 คน 9,926,868 หน่วย คงเหลือ 230,073,115
รวมเฉพาะหุ้นแม่ = 1449+290 = 1739 ล้านหุ้น
Global-W เหลือ 230 ล้านหุ้น
ESOP 47,303,032 ตีกลมๆ 48 ล้านหุ้น
รวมถ้ามีการแปลงทั้งหมด จะมีหุ้นทั้งหมด = 1739+230+48 = 2017 ล้านหุ้น
(น่าจะประมาณนี้แหละคับ อาจผิดพลาด 2 หลักบ้าง แล้วแต่จะคำนวณแบบไหน)
นั่นคือ 2017/1440 = Dilute 40% ถ้าไม่มี Growth ช่วย Cover ไว้เยอะ ผบห ไม่กล้าแน่ๆ
แต่ตัวเลขขนาดนี้แสดงว่า มีการวางแผนจะโตแบบ Aggressive ในช่วงที่มี warrant อยู่แล้ว
Pingback: วิธีการประมาณราคาหุ้นแบบง่ายๆ « VI Hybird
บทวิเคราะห์ของ ธนชาติล่าสุดนะครับ พี่คนนี้เค้าก็ตาม Global มาโดยตลอดเหมือนกัน
แล้วเค้าก็ประทับใจในผลงานเกินคาดของ Global ลองอ่านดูคับ
Click to access GLOBAL120229E.pdf
สวัสดีครับพี่ ตารางหายครับ )
Great article.